Metafisica Pittura – บทกวีสีและความลึกลับของอวกาศ-เวลา!

งานศิลปะชิ้นนี้โดย จิโอจิโอ เดอ คีริโก (Giorgio de Chirico) เป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของลัทธิ siêu thực (Surrealism) ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 “Metafisica Pittura” (1914) ไม่ใช่ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ฟิกชั่น แต่เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ (61 x 81.5 เซนติเมตร) ที่บังคับให้ผู้ชมต้องหยุดคิดและตั้งคำถามเกี่ยวกับความจริงของโลก

ในภาพ “Metafisica Pittura” คุณจะพบ

• อาคารโบราณ: รูปทรงเรขาคณิตที่คมชัดของอาคารเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อน และเต็มไปด้วยความลึกลับและเงาที่ยาว

• รูปปั้นมนุษย์: รูปปั้นสีน้ำตาลที่ดูเก่าแก่และไร้ชีวิตชีวา stoically ยืนอยู่บนพื้นดิน

• ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่: สีฟ้าอ่อน ๆ ของท้องฟ้าตัดกับอาคารและรูปปั้น ทำให้เกิดความรู้สึกของความโดดเดี่ยวและความว่างเปล่า

• หอนาฬิกา: หอนาฬิกาสีแดงสดที่ยืนเด่นเป็นสง่า แต่ไม่มีเข็มนาฬิกา

ภาพนี้ไม่ได้เพียงแต่เป็นภาพวาดสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการสำรวจทางปรัชญาของความจริงและอัตมวิญญาณของมนุษย์อีกด้วย

เดอ คีริโก เป็นศิลปินผู้เชี่ยวชาญในการสร้างภาพ “Metaphysical” ซึ่งหมายถึงการเหนือไปกว่าโลกแห่งความเป็นจริงที่เราเห็น

การตีความ “Metafisica Pittura” :

• ความโดดเด่iao: รูปแบบของอาคารและรูปปั้นในภาพดูไม่สมส่วน และทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด
• ความว่างเปล่า: แม้จะมีรายละเอียดที่มากมาย แต่ภาพก็ยังคงให้ความรู้สึกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

“Metafisica Pittura” ยกย่องการคิดเชิงปรัชญาและความสงสัย เดอ คีริโก เชื่อว่าศิลปะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสำรวจความลึกลับของจักรวาลและจิตใจมนุษย์

อิทธิพลของ “Metafisica Pittura” :

• ลัทธิ siêu thực (Surrealism): ภาพวาดของเดอ คีริโก มีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปิน Surrealist อื่นๆ เช่น ซัลวาดอร์ ดาลี (Salvador Dalí) และเรเน่ แม็กก์ (René Magritte)
• ภาพยนตร์: ฉากและบรรยากาศในภาพวาดของเดอ คีริโก ได้ปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น “The Third Man” (1949)

เทคนิคการวาดภาพของเดอ คีริโก:

• สี: เดอ คีริโก ใช้สีที่เรียบง่ายและสว่าง เช่น สีน้ำเงิน สีแดง และสีเหลือง เพื่อสร้างความรู้สึกของความฝันและความลึกลับ

“Metafisica Pittura” เป็นภาพวาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ศิลปะ

สรุป:

เดอ คีริโก เป็นศิลปินผู้บุกเบิก และ “Metafisica Pittura” เป็นงานชิ้นเอกที่แสดงถึงวิสัยทัศน์อัน獨特 ของเขาในการสำรวจความลึกลับของจักรวาลและจิตใจมนุษย์

ภาพนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน และผู้ชมทั่วโลก มาจนถึงปัจจุบัน