อาราธนาพระโพธิสัตว์ บทกวีอันศักดิ์สิทธิ์ในสีทองและการตีความแห่งเมตตา

หากจะกล่าวถึงศิลปะเวียดนามในศตวรรษที่ 11 ยุคทองของการฟื้นฟูวัฒนธรรมหลังจากยุคสงครามรุนแรงแล้ว ชื่อของ Chu Duc Phuong ศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะสลักไม้ และประติมากรรมทองคำ จะต้องถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน ในผลงานชิ้นเอก “อาราธนาพระโพธิสัตว์” ซึ่งปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเวียดนาม กรุงฮานอย ผลงานของ Chu Duc Phuong ได้เผยให้เห็นความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศในการแกะสลัก และการนำเสนอภาพลักษณ์ที่สง่างามและทรงพลัง

“อาราธนาพระโพธิสัตว์” เป็นผลงานประติมากรรมทองคำขนาดใหญ่ ที่แสดงถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ทรงเป็น embodiment of compassion (เมตตา) และ mercy (ความกรุณา) ในศาสนาพุทธ

รูปลักษณ์ของพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ Chu Duc Phuong สร้างขึ้นนั้น เป็นภาพของผู้ที่สง่างามและเมตตา
ดวงพระเนตรอันอ่อนโยน ทอดมองไปยังผู้บูชาด้วยความรัก และความปรารถนาดี

พระหัตถ์ทั้งสองยื่นออกมาราวกับทรงประทานพร บนฐานรองรับเป็นลวดลายดอกบัวอันงดงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ และการตื่นรู้

Chu Duc Phuong

ได้รังสรรค์ “อาราธนาพระโพธิสัตว์” อย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกวัสดุทองคำอันคุณภาพสูง ไปจนถึงรายละเอียด เล็กน้อย เช่น เส้นผมที่ไหลลู่ตามพระพักตร์ และรอยยิ้มที่อ่อนโยน

นอกจากความสวยงามแล้ว “อาราธนาพระโพธิสัตว์” ยังเป็นตัวแทน ของความศรัทธาและความเชื่อมั่นในศาสนาพุทธในสังคมเวียดนามยุคสมัยนั้น

รูปเคารพพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ Chu Duc Phuong สร้างขึ้นถูกนำไปใช้ในการบูชา และอ้อนวอน ให้พระองค์บันดาลความสุข ความสงบ และความสำเร็จในชีวิต

พระโพธิสัตว์ กวนอิม: สัญลักษณ์แห่งเมตตาและความกรุณาในศาสนาพุทธ?

พระโพธิสัตว์กวนอิม ถือเป็นผู้ที่ทรงคุณธรรมสูงสุด ในคติความเชื่อของศาสนาพุทธ โดยเฉพาะในนิกายมหายาน

พระองค์ถูกยกย่องว่าเป็น embodiment of compassion (เมตตา) และ mercy (ความกรุณา)

และทรงปรารถนาที่จะช่วยเหลือและปลดปล่อยสรรพสิ่งจากทุกข์

การสร้างรูปเคารพของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงไม่ใช่เพียงการแสดงออก ถึงศรัทธาในศาสนาเท่านั้น

แต่ยังเป็นการเตือนใจให้ผู้คนหันมาปฏิบัติตาม หลักคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งเน้นความเมตตา ความกรุณา และความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วย

“อาราธนาพระโพธิสัตว์” ของ Chu Duc Phuong จึงเป็นผลงาน ที่มีความหมายทั้งทางศิลปะและทางศาสนา

มันสะท้อนถึงความเชื่อและค่านิยมของสังคมเวียดนาม ในศตวรรษที่ 11

และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้.